ทวี สอดส่อง ลงพื้นที่ร่วมงานประเพณี 2 ศาสนา ไทยพุทธ มุสลิม สืบสานวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
เมื่อเวลา 9.00 น. วันที่ 5 พ.ย.65 ที่ ที่วัดมะเดื่อทอง (วัดกะโผ๊ะ) ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาพผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย มูฮำมัดอารีฟีน จะปะกิยา ว่าที่ผู้สมัครพรรคประชาชาติ และคณะ เดินทางลงพื้นที่เพื่อพบปะพี่น้องชาวไทยพุทธ ที่เดินทางเข้ามาร่วมงานทอดกฐินสามัคคี ที่วัดมะเดื่อทอง โดยมีข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า และประชาชน เดินทางมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมากร่วมกันเป็นเจ้าภาพในงานนี้ ภายในงานมีการจัดเตรียมอาหารไว้แจกจ่ายให้รับประทานหลากหลายชนิด โดยมีประชาชนต่างร่วมใจกันนำมาเพื่อร่วมกันทำบุญและส่งเสริม ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ในพื้นที่ตราบนานเท่านาน โดยทางด้านพ.ต.อ. ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาพผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ได้ให้กำลังใจ และพบปะผู้มาเข้าร่วมงานอย่างเป็นกันเอง ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่น
สำหรับวัดมะเดื่อทอง ถือเป็นวัดที่เก่าแก่ สร้างมาเมื่อปี พ.ศ. 2390 มีพระศักดิ์สิทธิ์คือ พระศิลาขาวเนื้อหินขาว อายุประมาณ 200 ปี และวัดมะเดื่อทองยังเป็นต้นกำเนิดของงานเทศกาลลากเรือพระในพื้นที่ชายแดนใต้ มีพ่อทวดสีพุฒ (พระครูมานัตต์สมณคุณ) เป็นอดีตเจ้าอาวาส ที่ประชาชนทั่วไปต่างรู้จักและให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก สำหรับการจัดงานทอดกฐินสามัคคี ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการต่อเติมซ่อมแซมเสนาสนะต่าง ทำชำรุดทรุดโทรม เพื่อทำนุบำรุงพระศาสนาต่อไป
จากนั้นเมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาพผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมคณะได้เดินทางยัง สำนักงานคณะกรรมการอิสลามหลังเก่า อ.เมือง จ.ปัตตานี เพื่อร่วมงานเมาลิดินนะบี ซึ่งจัดขึ้นโดยชมรมตาดีกาจังหวัดปัตตานี โดยมีตัวแทนของชมรมตาดีกาจังหวัดปัตตานี ทั้ง 12 อำเภอ ร่วมถึง นักการเมืองท้องถิ่น และประชาชน เข้าร่วมงาน ทั้งนี้เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสที่ตรงกับวันประสูติ หรือ เดือนประสูติของศาสดานบีมูฮัมหมัด คือเดือนรอบีอุลเอาวัล ซึ่งเป็นเดือนที่ 3 ในปี ฮิจเราะฮ์ศักราช ถือว่าเป็นเดือนที่มีความสำคัญยิ่งของคนไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม ที่ก่อให้เกิดความรัก ความสามัคคีและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ในหมู่คณะ
หลังจากเสร็จพิธี ทางด้านพ.ต.อ. ทวี สอดส่อง ได้ขึ้นกล่าวพบปะ พร้อมทั้ง กล่าวถึงคูณประโยชน์ของการมีตาดีกาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกล่าวว่า ตาดีกา เป็นการศึกษาที่ทรงคุณค่า กล่าวคือ เป็นการสอนแบบกล่อมเกลา ไม่ได้สอนให้ท่องจำเพียงอย่างเดียว แต่ยังกล่อมเกลาชีวิตของผู้เรียน โดยใช้คัมภีร์อัลกุรอ่าน เป็นพื้นฐานของการเรียน เพื่อนำหลักคิดมามาใช้ในชีวิตปะจำวัน และที่สำคัญผู้นำศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สิ่งที่มีคุณค่าอีก 1 อย่างก็คือ การบันทึก ตำราเรียน ซึ่งเราจะทำอย่างไรให้มีการบันทึกตำราเรียนที่มีความหลากหลาย โดยเพาะตำราที่เป็นภาษายาวี ซึ่งถือว่าเป็นการกนุรักษ์ และเป็นการปกป้อง ส่งเสริม เป็นการพัฒนา และฟื้นฟูด้านภาษา เพราะภาษาคือชาติพันธ์ คือความเป็นตัวตน วันนี้ถ้าการสูญสิ้นภาษา มันเหมือนการสูญสิ้นชาติพันธ์ และภาษาของพี่น้องชาวจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีภาษาของตัวเอง และมีตัวอักษรของเราเอง คนที่ปกป้อง คนที่รักษา ส่วนใหญ่ก็คือผู้นำศาสนา โดยเฉพาะ สถาบันปอเนาะ โรงเรียนตาดีกา ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการรักษาซึ่งไว้ภาษา
มูลนิธิตำรวจไทย-นานาชาติ มอบรางวัล Sir Robert Peel Award ครั้งที่ 2 ตำรวจ - นักข่าว ตบเท้าเข้ารับรางวัล
นายอำนวย กลิ่นอยู่ นายกสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย
เปิดรับสมัครแล้วจร้า“หลักสูตรการจัดการเศรษฐกิจสร้างสรรค์และซอฟต์พาวเวอร์ สำหรับผู้บริหารระดับสูง”