11 กันยายน 2568

“Give LIFE Get LIVES: สร้างกุศลผู้ให้ สร้างชีวิตใหม่ผู้รับ” ปลุกพลังการให้ ส่งเสริมการบริจาคอวัยวะ

image

ร่วมสร้างแรงบันดาลใจแห่งการให้ เพื่อชีวิตใหม่ของผู้รอคอย ด้วยความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการบริจาคอวัยวะและการปลูกถ่ายอวัยวะเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยที่รอคอยโอกาสใหม่ ศูนย์ปลูกถ่ายอวัยวะ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ


รศ.นพ.ดิลก ภิยโยทัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า วันที่ 13 สิงหาคมของทุกปี เป็นวัน World Organ Donation Day โดยมีจุดมุ่งหมายให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการบริจาคอวัยวะและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ร่วมกับศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย และศูนย์ดวงตา สภากาชาดไทย จึงจัดงาน World Transplant Month 2025 ภายใต้แคมเปญ “Give LIFE Get LIVES: สร้างกุศลผู้ให้ สร้างชีวิตใหม่ผู้รับ” ณ โถงกิจกรรม ชั้น 1 อาคาร ม.ร.ว.สุวพรรณ สนิทวงศ์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยให้ความสำคัญและสนับสนุนการรับบริจาคอวัยวะ และการปลูกถ่ายอวัยวะอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้การจัดงานเนื่องในวันบริจาคอวัยวะโลก (World Organ Donation day) มีจุดประสงค์เพื่อเชิญชวนให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการบริจาคอวัยวะ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะ และเพิ่มจำนวนผู้บริจาคอวัยวะ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้ผู้ป่วยที่ต้องการอวัยวะได้รับชีวิตใหม่ เพราะหลายคนยังคงเชื่อว่าถ้าบริจาคอวัยวะแล้วชาติหน้าจะเกิดมามีอวัยวะไม่ครบ แต่หากเรามองข้ามผ่านความเชื่อดังกล่าวและดูข้อเท็จจริงที่แสดงให้เห็นประโยชน์ของการบริจาคอวัยวะแล้วจะพบว่า การบริจาคอวัยวะโดยผู้บริจาคอวัยวะเพียง 1 ราย สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ถึง 8 ชีวิต รวมถึงส่งผลให้ผู้ป่วยมีสุขภาพกายที่ดีและอายุยืนยาวขึ้นได้


รศ.นพ.สุภนิติ์ นิวาตวงศ์ รองผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย กล่าวว่า จากภาวะการขาดแคลนอวัยวะในประเทศไทย แม้ว่าจะมีผู้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะกว่าปีละ 50,000 ราย แต่ส่วนใหญ่การเสียชีวิตมิใช่เกิดจากสมองตาย หรือมีข้อห้ามของการบริจาคอวัยวะ เช่น เสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจหยุดเต้น หรือมีการติดเชื้อ และอวัยวะได้รับบาดเจ็บจนทำให้ไม่สามารถนำอวัยวะไปใช้ปลูกถ่ายได้ รวมถึงปัญหาอวัยวะที่นำไปปลูกถ่ายหรือทำงานได้ไม่ดี เข้ากันไม่ได้กับร่างกายของผู้รับ เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ อายุของผู้บริจาค ขนาดของอวัยวะ การทำงานของอวัยวะ ระยะเวลาขาดเลือดของอวัยวะ และความแตกต่างของเนื้อเยื่อ เป็นต้น โดยอวัยวะที่นำมาปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยได้มาจากผู้บริจาค 2 กลุ่ม เท่านั้น คือ กลุ่มที่หนึ่งผู้บริจาคที่มีชีวิต อวัยวะที่สามารถบริจาคได้คือ ไต และตับ ผู้บริจาคกลุ่มนี้ต้องเป็นญาติโดยสายโลหิต หรือเป็นสามีภรรยาที่อยู่กินกันเปิดเผยอย่างน้อย 3 ปีเท่านั้น หากผู้รอรับอวัยวะไม่มีญาติที่สามารถบริจาคอวัยวะให้กันได้ เช่น หมู่เลือดหรือเนื้อเยื่อเข้ากันไม่ได้ ผู้บริจาคมีสุขภาพไม่สมบูรณ์ ฯลฯ จะต้องรออวัยวะจากผู้บริจาคเท่านั้น กลุ่มที่สอง คือ ผู้บริจาคที่เสียชีวิตจากภาวะสมองตาย ซึ่งสามารถบริจาคได้ทุกอวัยวะ ได้แก่ หัวใจ ปอด ตับ ไต ตับอ่อน และลำไส้เล็ก แพทย์ต้องวินิจฉัยว่ามีภาวะก้านสมองตาย และญาติลงนามยินยอมบริจาคอวัยวะ ซึ่งอวัยวะที่ปลูกถ่ายได้ ได้แก่ ไต 2 ข้าง ปอด 2 ข้าง หัวใจ ตับ ตับอ่อน และลำไส้เล็ก นอกจากนี้ยังมีเนื้อเยื่อที่ปลูกถ่ายได้ ได้แก่ กระจกตา ลิ้นหัวใจ หลอดเลือด ผิวหนัง กระดูกและเส้นเอ็น 

โดยคุณสมบัติของผู้บริจาคอวัยวะ มีดังนี้ 

1) อายุไม่เกิน 65 ปี 

2) เสียชีวิตจากสภาวะสมองตายด้วยสาเหตุต่าง ๆ

3) ปราศจากโรคติดเชื้อรุนแรง และโรคมะเร็ง 

4) ไม่เป็นโรคเรื้อรังซึ่งทำให้อวัยวะเสื่อม เช่น เบาหวาน หัวใจ โรคไต ความดันโลหิตสูง โรคตับ และไม่ติดสุรา 

5) อวัยวะที่จะนำไปปลูกถ่ายต้องทำงานได้ดี 

6) ปราศจากเชื้อโรคซึ่งอาจจะถ่ายทอดทางการปลูกถ่ายอวัยวะ เช่น ไวรัสตับอักเสบชนิดบี หรือซี ไวรัสโรคเอดส์ ฯลฯ 

 

และคุณสมบัติของผู้บริจาคดวงตา มีดังนี้ 

1) อายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไป

2) ไม่จำกัดเพศ 

3) ไม่จำกัดหมู่เลือด 

4) เป็นผู้ปราศจากเชื้อที่ถ่ายทอดทางกระจกตา เช่น โรคเอดส์ ไวรัสตับอักเสบชนิดบี หรือซี เป็นต้น 

และ 5) ผู้ที่มีสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง เคยทำเลสิก เคยผ่าตัดต้อกระจก ก็สามารถบริจาคได้ 


รศ.นพ.ฉัตรชัย มิ่งมาลัยรักษ์ ประธานกรรมการบริหารการปลูกถ่ายอวัยวะ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่รอคอยการการบริจาคอวัยวะ ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 มากถึง 7,133 ราย โดย 95 เปอร์เซ็นต์ เป็นผู้ป่วยที่รอ “ไต” มีจำนวนมากถึง 6,619 ราย ซึ่งถือเป็นอวัยวะที่ขาดแคลนที่สุด รองลงมา คือ ตับ หัวใจ ปอด และตับอ่อน ขณะเดียวกันมีผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะแล้วเพียง 465 ราย และทุก ๆ สัปดาห์จะมีผู้เสียชีวิต 2 ราย จากการรอปลูกถ่ายอวัยวะ และมีแนวโน้มจำนวนผู้รอรับอวัยวะเพิ่มขึ้น แม้ว่าผู้บริจาคจะสามารถบริจาคอวัยวะและเนื้อเยื่อเพื่อนำไปปลูกถ่ายอาจนำไปช่วยเหลือชีวิตคนได้ 8-9 ชีวิต อีกทั้งการบริจาคอวัยวะถือเป็นการสร้างประโยชน์และความสุขอย่างไม่มีที่สิ้นสุด งานนี้จึงถูกจัดขึ้นเพื่อเชิญชวนและให้ความรู้กับประชาชนทั่วไปถึงความสำคัญและประโยชน์ของการบริจาคอวัยวะ สำหรับผู้สนใจสามารถแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะและดวงตา อีกทั้งการบริจาคอุทิศร่างเพื่อการศึกษา เพื่อเป็นการให้ชีวิตใหม่แก่ผู้ป่วยได้กลับคืนสู่สังคมด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี และยังมีโอกาสได้สร้างประโยชน์ให้กับสังคมต่อไป


โดยภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ กิจกรรม Give LIFE: เสวนากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกถ่ายอวัยวะและกระจกตา กิจกรรม Get LIVES: แบ่งปันประสบการณ์ตรงจากผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ และ กิจกรรม Be A Giver: ความสุขจากการแบ่งปัน โดยมี “จุ๋ย-วรัทยา นิลคูหา” พร้อมด้วย “พุฒ-พุฒิชัย เกษตรสิน” และ “พิม-พิมพ์จิรา เจริญลักษณ์” มิสแกรนด์กรุงเทพมหานคร มาบอกเล่าแบ่งปันประสบการณ์การเป็นผู้ให้ อีกทั้งยังมี “แพรรี่-ไพรวัลย์ วรรณบุตร” มาร่วมพูดคุยถึงประเด็นเรื่องความเชื่อเรื่องการบริจาคอวัยวะ อีกทั้งยังมอบความบันเทิงให้กับผู้ร่วมงานด้วยมินิคอนเสิร์ต จาก “เป้ (วง Mild)” และกิจกรรม “Give for GIFTS” ที่มอบของที่ระลึก POP MART ให้แก่ผู้ที่แสดงเจตจำนงบริจาคอวัยวะอีกด้วย
สำหรับผู้ที่ไม่ได้มาร่วมงานในวันดังกล่าว สามารถติดตามรับชมบรรยากาศงานย้อนหลัง หรือติดตามข้อมูลข่าวสารตางๆ ได้ทาง Facebook โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
หน่วยการพยาบาลผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ
โทร: 02-9269059/ 092-7324222

Taevika Jewelry ร่วมสร้างบรรยากาศหรูหราและอบอุ่น ในงาน Bangkok Gems & Jewelry Fair ครั้งที่ 72

Taevika Jewelry ร่วมสร้างบรรยากาศหรูหราและอบอุ่น ในงาน Bangkok Gems & Jewelry Fair ครั้งที่ 72

สภท. ร่วมกับ 38 House และ RTB ร่วมจัดการแข่งขันฟุตซอลแบ่งสาย รายการ “RTB 38 House Futsal Festival”

สภท. ร่วมกับ 38 House และ RTB ร่วมจัดการแข่งขันฟุตซอลแบ่งสาย รายการ “RTB 38 House Futsal Festival”

นายกมิ้นลุยจัดระเบียบการจราจรตลาดแม่กลอง

นายกมิ้นลุยจัดระเบียบการจราจรตลาดแม่กลองทั้งหมด เตรียมทดลองใช้เส้นทางใหม่ดีเดย์ 1 ตุลาคมนี้