'บิ๊กตู่' นั่งรถไฟชมตลาดร่มหุบ ปลื้มชาวแม่กลองเชียร์ลุงตู่อยู่ต่อ!

           เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากสนามเฮลิคอปเตอร์ พล.ม. 2 รอ. เขตพญาไท กรุงเทพฯ ไปยังสนามกีฬาจังหวัดสมุทรสงคราม ต.แม่กลอง อ.เมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม โดยเฮลิคอปเตอร์เลข 4753 แล้วนายกรัฐมนตรีจะออกเดินทางจากสนามกีฬาจังหวัดสมุทรสงคราม ด้วยรถยนต์โตโยต้าอัลพาส ทะเบียน 3กญ 2929 กรุงเทหมหานคร ไปยังสถานีรถไฟลาดใหญ่ ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม โดยมีประชาชนจำนวนมากมารอต้อนรับ ในจำนวนในนี้มี นางสนม จันทร์คง อายุ 85 ปี ชาว ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม ที่นำข้าวต้มมัดที่ทำมาตั้งแต่เมื่อเย็นวานนี้ นึ่งตอนมึด มามอบให้นายกรัฐมนตรี พร้อมบอกว่า ขอให้ลุงตู่อยู่เรื่อยไปขวัญใจคนจน คนจนชอบลุงตู่ ลุงตู่สู้ๆ แต่ทำนิ้วไม่ถูก สร้างรอยยิ้มเสียงหัวเราะทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น โดยมี น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ เดินเคียงข้าง พลเอกประยุทธ์ ไม่ห่าง

จากนั้นพลเอกประยุทธ์ได้เดินทางด้วยรถไฟขบวนที่ 4383 (สถานีรถไฟลาดใหญ่ - สถานีรถไฟแม่กลอง) ไปยังสถานีรถไฟแม่กลอง เพื่อตรวจติดตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โดยเมื่อเดินทางถึงสถานีรถไฟแม่กลอง มีชาวบ้านในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มารอต้อนรับกันเป็นจำนวนมาก ในจำนวนมนี้มีนางสาวพจมาน กลิ่นแย้ม อายุ 42 ปี ชาวตำบลแม่กลอง นำเสื้อยืดสีขาวมาให้นายกรัฐมนตรีเซ็นต์ชื่อ โดย นายกฯ เซ็นค่ำว่า “ลุงตู่รักทุกคน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” โดยนางสาวพจมาน กล่าวว่า มารอตั้งแต่เช้า ตั้งใจมาให้ลุงตู่เซ็นต์ชื่อให้เพื่อจะใส่โชว์รอบตลาดแม่กลอง

จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะรับฟังรายงานสรุปเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาโครงข่ายระบบรถไฟเชื่อมต่อสมุทรสงคราม เกี่ยวกับรถไฟสายทางมหาชัย–ปากท่อ โดยผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยพร้อมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีการพัฒนาเส้นทางรถไฟสายทางวงเวียนใหญ่-ท่าฉลอม และรับฟังรายงานสรุปเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลัก และระบบป้องกันน้ำท่วม ชุมชนเมืองสมุทรสงครามอำเภอเมืองสมุทรสงคราม ระยะที่ 1 พร้อมตรวจเยี่ยมวิถีเศรษฐกิจชุมชนสถานีรถไฟแม่กลอง

ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะเดินไปยังวัดเพชรสมุทรวรวิหาร เพื่อสักการะหลวงพ่อบ้านแหลม และนมัสการพระสมุทรวชิรโสภณ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม และเจ้าอาวาสวัดเพชรสมุทรวรวิหาร ณ พระอุโบสถวัดเพชรสมุทรวิหาร ซึ่งก็มีประชาชนมาแห่ต้อนรับ ทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ต่างโอบกอดให้กำลังใจลุงตู่กันเป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก นางปรีญา คุ้มทอง อายุ 54 ปี ได้โผเข้ากอดนายกรัฐมนตรี พร้อมกล่าวว่า รักนายกตู่ 8 ปี ที่นายกตู่ เป็นนายกรัฐมนตรี จะมีข่าวลืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งตนจะฟังและพิจารณาหากไม่จริงก็จะบอกเพื่อบ้านว่าอย่าฟังข่าวโคมลอย ต้องดูพื้นฐานจิตใจจริงๆ ของนายกรัฐมนตรีแต่ละคน นายกคนนี้พูดจริงทำจริง และดีที่สุดแล้ว ขอให้หลวงพ่อบ้านแหลมที่ศักดิ์สิทธิ์ช่วยท่านให้ประสบความสำเร็จ

ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และคณะได้ เดินทางไปที่วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปจากนายสมนึก พรหมเขียว ผวจ.สมุทรสงคราม พร้อมรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนชาวสมุทรสงคราม รวม 5 เรื่อง ประกอบด้วย นายมงคล สุขเจริญคณา นายกสมาคมชาวสมุทรสงคราม ผู้แทนภาคประมง ที่ขอให้นายกรัฐมนตรีช่วยเสนอแก้ไขกฎหมาย พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558/2560 โดยให้สภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้พิจารณาโดยเร่งด่วน และขอให้ตัวแทนชาวประมงมีส่วนร่วมในการแก้ไขกฎหมาย, และช่วยเร่งรัดการซื้อเรือประมงที่มีใบอนุญาติประมงที่แจ้งความประสงค์ไว้ ออกนอกระบบโดยเร็วตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ เป็นต้น

            ส่วนนางสาวรัตนา  ผ่องจิตร ผู้แทนเครือข่ายประมงพื้นบ้านลุ่มน้ำแม่กลอง ขอความเมตตาให้นายกรัฐมนตรีผ่อนคลายกฎหมายกำจัดโพงพาง ซึ่งเป็นเครื่องมือทำกินของชาวบ้านในพื้นที่ไว้ใช้ทำมาหากินเลี้ยงดูครอบครัว, ด้านนางสาวเกตุแก้ว สำเภาทอง เลขาสมาพันธ์ชาวนาเกลือทะเลไทย ขอให้นายกฯตั้งกองทุนเกลือ ที่ดูแลเกลือทั้งระบบทั่วประเทศ ป้องกันการสูญสลายของนาเกลือไทย อีกทั้งขอให้ประกันราคาเกลือกิโลกรัมละ 1.5 บาทด้วย อีกทั้งนายเจษฎา ญาณประภาศิริ ประธานสมาพันธ์ชาวสวนมะพร้าว ขอให้นายกฯยกระดับให้มะพร้าวเป็นพืชเศรษฐกิจ เพื่อทำให้ราคามะพร้าวมีราคาสูงขึ้น เหมือนกับสินค้าทางการเกษตรชนิดอื่น และขอให้ประกันราคามะพร้าวที่ปัจจุบันมีราคาตกต่ำ ให้มีราคาดีขึ้นไม่ต่ำกว่าลูกละ 15 บาท ด้วย นอกจากนี้นายชัยยันต์ เจียมศิริ ประธานกลุ่มปรับปรุงคุณภาพไม้ผลจังหวัดสมุทรสงคราม ยังขอให้นายกรัฐมนตรีช่วยส่งเสริมการตลาดของส้มโอและลิ้นจี่ด้วย

             จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้พบปะพี่น้องประชาชนโดยบอกว่านายกรัฐมนตรีรักทุกคน ทำเพื่อพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ส่วนโครงการที่จังหวัดสมุทรสงครามเสนอต้องนำเข้าสภาพิจารณาว่าจะได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับ ส.ส.ในพื้นที่ของท่าน เพราะท่านเลือกเข้าไป ซึ่งตนยืนยันจะทำให้ดีที่สุดเพื่อพี่น้องชาวสมุทรสงคราม เราต้องอยู่ด้วยความเชื่อมั่น ไว้วางใจซึ่งกันและกัน ตนมายืนตรงนี้เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนทุกคนมีความสุข เหมือนคนในครอบครัว ที่มีพ่อดูแลลูกทุกคนเท่าเทียมกัน ดูแลการเจริญเติบโต ที่ดีที่สุด ตนมีหน้าที่ตรงนี้ที่ดูแลทุกกลุ่มทุกฝ่ายให้เจริญเติบโตให้ดีที่สุด ไม่แบ่งแยกว่าใครเป็นใคร ในช่วงนี้เป็นประชาธิปไตย ท่านก็คิดแล้วกันดูแล้วกันว่าที่พูดมาทำได้มากน้อยแค่ไหน อะไรที่ทำไม่ได้ผมจะไม่พูด  ผมไม่ได้มาหาเสียงจากท่าน ตลอดเวลา 8 ปีที่ผ่านมา และเมื่อไหร่ก็ตาม มันทำให้ระบบผู้ว่าราชการจังหวัดเสียหาย หากเสียหายไปก็จะทำให้การทำงานลำบาก ตนอาจจะพูดแรงแต่ก็จริงใจที่จะทำอย่างไหร่ให้ทุกคนมีความสุข คนไม่ทำให้ 60 ล้านคนพอใจได้ แต่จะทำให้ทุกกลุ่มพอใจ 

นายกรัฐมนตรีกล่าวตอนนึงว่า ตนอยากมาตลาดร่วมหุบร่มบานของท่านแห่งนี้มานานแล้ว วันนี้มาเจอนักท่องเที่ยวต่างชาติ เขาดีใจที่เจอนายกรัฐมนตรีประเทศไทย ซึ่งตนก็ขอบคุณในนามประเทศไทยน และในนามชาวสมุทรสงคราม ที่มาท่องเที่ยวประเทศไทย จะทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น เป็นต้น

อย่างไรก็ตามระหว่างที่นายกรัฐมนตรีกำลังพูดกับพี่น้องประชาชน เกิดไฟฟ้าดับทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับเซ็ง ใช้มือเคาะไมโครโฟน จากนั้นนายกรัฐมนตรีก็เดินลงพบปะพูดคุยกับประชาชนที่มารอต้อนรับอย่างใกล้ชิด โดยมีการเซลฟี่ ถ่ายภาพหมู่ ทักทายกันท่ามกลางบรรยากาศเป็รกันเอง สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชนที่มารอต้อนรับใช้เวลาที่วิทยาลัยเทคนิคนมุทรสงครามประมาณ  1 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับ