14 พ.ค. เลือกตั้ง 66 ไทยโหวต คนไทยพร้อมใช้สิทธิ

             สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)จัดกิจกรรม BIG DAY ภายใต้แคมเปญ “ไทยโหวต คนไทยพร้อมใช้สิทธิ” พร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อรณรงค์ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิในวันที่ 14 พ.ค.66 ตั้งเป้าตัวเลขผู้ใช้สิทธิไม่น้อยกว่า 80% ของผู้มีสิทธิทั้งหมด โดยเน้นย้ำก่อนออกไปใช้สิทธิควรตรวจสอบสิทธิ สถานที่เลือกตั้ง รวมทั้งศึกษาข้อมูลผู้สมัคร พรรคการเมือง ได้ทางเอกสารแจ้งเจ้าบ้าน หรือแอปพลิเคชัน Smart Vote รวมทั้ง ณ หน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ 

หลักฐานที่ใช้แสดงตนในการลงคะแนนเลือกตั้ง

• บัตรประจำตัวประชาชน (บัตรที่หมดอายุก็ใช้ได้)

• หลักฐานภาพอิเล็กทรอนิกส์ที่เปิดผ่านแอปพลิเคชันของหน่วยงานรัฐ เช่น ThaiID, DLT QR LICENCE

• บัตรหรือหลักฐานอื่นที่หน่วยงานของรัฐออกให้ที่มีรูปถ่าย และมีเลขบัตรประจำตัวประชาชน เช่น บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่รัฐ ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)

** สำเนาเอกสารต่าง ๆ ไม่สามารถใช้ได้ 

• ทั้งนี้เจ้าหน้าที่คนที่ดูแลคูหาจะเปิดให้ใช้สิทธิได้คือ  08.00-17.00 น.

วิธีกากบาทบัตรเลือกตั้งที่เรียกว่า บัตรดี และ บัตรเสีย

• ลักษณะของบัตรดี

o ต้องมีเครื่องหมายในการลงคะแนน

o ต้องเป็นเครื่องหมายกากบาทเท่านั้น (X)

o เครื่องหมายกากบาทต้องอยู่ในช่องทำเครื่องหมายและต้องมีเครื่องหมายเดียวเท่านั้น

• ลักษณะของบัตรเสีย

o บัตรปลอม

o บัตรที่ไม่ได้ทำเครื่องหมายลงคะแนน

o บัตรที่ลงคะแนนเกินหนึ่งหมายเลข

o บัตรที่ทำเครื่องหมายอื่นนอกจากกากบาท

o บัตรที่ลงคะแนนในช่องที่ไม่มีผู้สมัคร บัตรที่กากบาทในช่องที่ไม่มีผู้สมัคร หรือผู้สมัครที่ถูกถอนชื่อออก จากประกาศรายชื่อผู้สมัคร

o ทำเครื่องหมายนอกช่อง

o ไม่ใช่บัตรที่กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งมอบให้

ข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ควรรู้

• ห้ามโฆษณาหาเสียงให้ผู้สมัคร ส.ส. หรือพรรคการเมืองตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 13 พ.ค.จนเสร็จสิ้นการลงคะแนนเสียง เช่น การโพสต์หาเสียงให้พรรคการเมือง การใส่เครื่องแต่งกาย-เครื่องประดับที่มีโลโก้เข้าคูหา

• ห้ามจำหน่าย-แจก สุรา ตั้งแต่ 18.00 น. ของวันที่ 13 พ.ค.จนถึง 18.00 น. ของวันที่ 14 พ.ค.66

• ห้ามเปิดเผยผลโพล จนเสร็จสิ้นการลงคะแนนเสียง

• ห้ามจัดรถหรือเกณฑ์คนไปเลือกตั้ง เว้นแต่เป็นยานพาหนะ     ที่หน่วยงานภาครัฐจัดเพื่ออำนวยความสะดวกตามที่ กกต.กำหนด

• ห้ามทำเครื่องหมายเป็นจุดสังเกตในบัตรเลือกตั้ง

• ห้ามถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนแล้ว

• ห้ามโชว์บัตรเลือกตั้งที่กาแล้วให้ผู้อื่นทราบว่าเลือกใคร

• ห้ามขัดขวาง ไม่ให้คนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

วิธีนับคะแนนและประกาศผลนับคะแนน

       - คะแนนเสียงจากผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.66 จะเริ่มนับหลัง 17.00 น. โดยไม่ประวิงเวลา ณ หน่วยเลือกตั้ง และประกาศผลคะแนน ณ หน่วยเลือกตั้งทันทีที่นับคะแนนแล้วเสร็จ

       - คะแนนเสียงจากผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต ในเขต และนอกราชอาณาจักร จะเริ่มนับหลัง 17.00 น. ณ สถานที่คณะกรรมการประจำเขตเลือกตั้งกำหนด

       - คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขต จะนำผลคะแนนของ ส.ส. แบบแบ่งเขต มารวมกันและประกาศผลการนับคะแนนเรียงตามลำดับผู้ได้รับคะแนนสูงสุด และนำผลการรวมคะแนนขึ้นแสดง        บนป้ายขนาดใหญ่ ณ ที่ทำการศูนย์อำนวยการประจำเขตเลือกตั้งนั้น

      - คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขต จะนำผลคะแนนของ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ มารวมกัน ณ ที่ทำการศูนย์อำนวยการประจำเขตเลือกตั้ง เมื่อแล้วเสร็จจะประกาศผลการนับคะแนนเรียงตามหมายเลขบัญชีรายชื่อพรรค ทันทีที่ผลคะแนนแล้วเสร็จจะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อรวมคะแนนทั้ง 400 เขต และคำนวณสัดส่วนของพรรคการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อต่อไป

       - คาดว่าคะแนนแรกจะสามารถเริ่มทยอยประกาศได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.30 น. เป็นต้นไป โดยจะดำเนินการต่อเนื่องเพื่อให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้คาดว่าคะแนนสุดท้ายน่าจะทราบได้ ภายในเวลา        ไม่เกิน 23.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566

        - ความปลอดภัยของเอกสาร การประกาศผลการนับคะแนนของแต่ละหน่วยเลือกตั้ง จัดทำขึ้นมา 3 ฉบับ ฉบับที่ 1 ใช้สำหรับนำมารวมผลคะแนน ฉบับที่ 2 ใช้สำหรับปิดประกาศหน้าที่เลือกตั้งให้ประชาชนรับทราบ และฉบับที่ 3 บรรจุลงในหีบบัตรเลือกตั้งพร้อมกับบัตรเลือกตั้งที่ใช้ในการ ลงคะแนนแล้ว และกระดาษขีดคะแนน ทั้งนี้ผู้มีอำนาจสั่งให้มีการเปิดหีบบัตรเลือกตั้ง ต้องเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งเท่านั้น

            - ความโปร่งใสของเอกสาร ประกาศผลการนับคะแนน       ปิดประกาศบริเวณหน้าที่เลือกตั้ง หรือบริเวณหน้าที่นับคะแนนทุกแห่งเผยแพร่ผ่านเว็บไชต์ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานคร ทุกหน่วยเลือกตั้งภายใน 5 นับแต่วันเลือกตั้ง.

ถอดบทเรียนเลือกตั้งล่วงหน้า 

ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม 2566 เป็นวันเลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้ง ในเขตเลือกตั้ง และ ณ ที่เลือกตั้งกลาง สำหรับคนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุนั้น สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (สำนักงาน กกต.) รายงานจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. ผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง จำนวนผู้ลงทะเบียน 60,786 คน จำนวนผู้มาใช้สิทธิ 57,362 คน คิดเป็นร้อยละ 94.37

2. ผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้ง จำนวนผู้ลงทะเบียน 2,222,380 คน จำนวนผู้มาใช้สิทธิ 2,030,628 คน คิดเป็นร้อยละ 91.37 โดยประมาณ

3. ผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลาง สำหรับคนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุ จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 2,356 คน ผู้มาใช้สิทธิ จำนวน 2,124 คน          คิดเป็นร้อยละ 90.15 

สารพัดปัญหาเลือกตั้งล่วงหน้า 

• ลงทะเบียนแล้วแต่ไม่มีชื่อในบัญชี ส่งผลให้ประชาชนจะต้องกลับไปเลือกตั้งที่ภูมิลำเนาในวันเลือกตั้งจริง 

• เขียนเขต/รหัสหน้าซองบัตรเลือกตั้งผิด ซึ่งเกิดในหลายพื้นที่

• ข้อมูลผู้สมัครและพรรคไม่ครบหรือสร้างความสับสน

• ปิดผนึกซองไม่ถูกต้อง

• ปัญหาอื่นๆ อาทิ เซ็นชื่อผิดช่อง ไม่ตรวจสอบอัตลักษณ์ 

กกต.เข้มคุมเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม ไม่ให้พลาดซ้ำ - เร่งรายงานผล

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด และกรุงเทพมหานคร เรื่องกำชับการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้ง ว่าในการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยภาพรวมของการจัดการเลือกตั้งจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ปรากฏข้อมูลตามสื่อต่างๆ พบความผิดพลาดในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการประจำที่เลือกตั้งกลางหลายแห่ง ดังนั้นเพื่อให้การเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 14 พ.ค. เป็นไปด้วยความเรียบร้อยจึงขอให้ดำเนินการดังต่อไปนี้

• ในการอบรมคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ให้เน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปด้วยความรอบคอบและถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ และแนวทางที่ กกต.กำหนด คู่มือปฏิบัติ สำหรับเจ้าหน้าที่พนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด หากมีเหตุการณ์ใดให้บันทึกลงในรายงานเหตุการณ์ประจำที่เลือกตั้ง ส.ส.5/6

• การดำเนินงานในวันเลือกตั้ง ก่อนเปิดการลงคะแนนให้คณะกรรมการ ประจำหน่วยเลือกตั้งตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของป้ายปิดประกาศ และเมื่อเสร็จสิ้นการนับคะแนนให้ดำเนินการรายงานผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการโดยเร็ว

• กำชับการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการประจำเขตเลือกตั้งและผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งให้เป็นไปตามที่กฎหมาย ระเบียบ ประกาศ และแนวทางที่ กกต.กำหนด โดยให้ผู้อำนวยการสำนักงาน กกต. ประจำจังหวัด และ กรุงเทพฯ ปฏิบัติหน้าที่ในการอำนวยการจัดการเลือกตั้งด้วยความเข้มแข็งและรับผิดชอบ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือ คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งและผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง ในกรณีที่มีปัญหาหรือข้อขัดข้อง        ในการปฏิบัติหน้าที่

         ทั้งนี้ ในกรณีเกิดเหตุจลาจล อุทกภัย อัคคีภัย เหตุสุดวิสัยหรือเหตุจำเป็นอย่างอื่นในวันเลือกตั้งและมีผลกระทบต่อการออกเสียงลงคะแนนหรือการนับคะแนนให้รายงานเหตุดังกล่าวต่อสำนักงาน กกต.โดยเร็ว

         อย่างไรก็ตาม ในตอนท้ายของหนังสือ ยังระบุว่า ได้แจ้งรายชื่อและเลขโทรศัพท์ของผู้บริหารและฝ่ายที่รับผิดชอบ เพื่อใช้ในการติดต่อประสานงานและแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ ไปให้กับผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดด้วย

การเลือกตั้งผู้พิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุ

 กกต. ได้จัดให้มีที่เลือกตั้งพิเศษ สำหรับคนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุ โดยประสานไปยังหน่วยงานที่มีสถานสงเคราะห์ของรัฐตามประกาศกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลพบว่ามีสถานที่ที่พร้อมจัดเป็นที่เลือกตั้งพิเศษสำหรับ         ผู้พิการ หรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุ จำนวน 28 แห่ง ในพื้นที่ 23 จังหวัด โดยได้เปิดให้ใช้สิทธิพร้อมกับการเลือกตั้งล่วงหน้าไปแล้ว          เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 66 ซึ่งภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

         ทั้งนี้หากผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือทุพพลภาพ ที่ไม่ได้ลงทะเบียน ใช้สิทธิในวันดังกล่าว สามารถไปใช้สิทธิในวันที่ 14 พ.ค. 66 ณ หน่วยเลือกตั้งตามสิทธิของท่าน โดยจะมีเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้สิทธิ

แนวทางการสื่อสาร

         1. รณรงค์คนไทยออกไปใช้สิทธิ 

         2. ประชาสัมพันธ์วิธีการใช้สิทธิเพื่อลดบัตรเสีย และลดการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

         3. ระมัดระวังการนำเสนอข่าวสารในช่วงเวลา 18.00 น.           ของวันที่ 13 พ.ค. 66 จนถึงช่วงเวลาปิดหีบ