“park ใจ go campus” ใช้ธรรมชาติ สร้างสุขภาวะทางปัญญา

 ธนาคารจิตอาสา และ สสส. จับมือ นิตยสารสารคดี ผุดโครงการ “park ใจ go campus” หวังใช้ธรรมชาติ สร้างสุขภาวะทางปัญญาให้แก่กลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่

ธนาคารจิตอาสา ร่วมกับ นิตยสารสารคดี โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดโครงการ “park ใจ go campus” มุ่งหวังในการสร้างสุขภาวะทางปัญญาให้เกิดแก่กลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ โดยใช้ธรรมชาติเป็นตัวเชื่อมโยงให้เกิดความสุขจากภายใน โดยประเดิมจัดกิจกรรมครั้งแรกที่ มหาวิทยาลัยรังสิต 

งานนี้ “ต้น-สุรศักดิ์ เทศขจร” หัวหน้าฝ่ายกิจกรรมพิเศษ นิตยสารสารคดี ผู้ที่ชื่นชอบในการถ่ายภาพ  วิทยากรโครงการ “park ใจ go campus” ในครั้งนี้ เล่าว่า “โครงการPark ใจ เป็นส่วนหนึ่งในแผนงานการสร้างสุขภาวะทางปัญญา ที่ทาง สสส. ธนาคารจิตอาสา และนิตยสารสารคดี ได้ร่วมกันทำงานด้านนี้มาอย่างต่อเนื่อง สำหรับโครงการนี้มีโจทย์ว่าจะทำอย่างไรให้ธรรมชาติเป็นเครื่องมือในการทำให้คนเข้าถึงเรื่องของสุขภาวะทางปัญญาหรือการค้นพบความสุขจากภายใน ช่วยให้คนเชื่อมโยงและเรียนรู้ความสุขจากธรรมชาติ  ซึ่ง Park ใจ หรืออ่านพ้องเสียงได้อีกอย่างว่าพักใจ นั้นเราทำงานมาปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้ว เริ่มแรกเราทำงานกับกลุ่มคนเมือง ซึ่งทราบกันดีว่าจะมีชีวิตที่เร่งรีบแข่งขันกับเวลาเป็นส่วนใหญ่  เราจึงอยากให้เขาได้เชื่อมต่อกับธรรมชาติบ้าง ได้ผ่อนคลายบ้าง ก็เลยจัดกิจกรรมที่สวนสาธารณะ ให้คนเมืองได้ไปใช้ชีวิตสงบนิ่งร่วมกับธรรมชาติ 1 วัน ที่ ส่วนปีที่ 2 เราจัดกิจกรรมที่เรียกว่าอาบป่า  คือให้คนได้เชื่อมต่อกับป่า พาคนไปดูนก ดูผีเสื้อ คล้ายกับการไปเที่ยว แต่เป็นการเที่ยวในรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่แค่เที่ยวแล้วถ่ายรูปๆ  แต่เรามุ่งหวังให้เกิดการเชื่อมโยงตัวเองเข้ากับธรรมชาติ  ซึมซับ ลึกซึ้ง เข้าถึงกับการได้ไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริง

 สำหรับปีล่าสุดนี้เราพุ่งเป้ามาทำงานกับกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่ยุคนี้เรารู้กันดีว่าเยาวชนส่วนใหญ่อยู่กับโลกโซเชียล  เราจึงอยากให้น้องๆ ได้มีช่วงเวลากลับมาอยู่กับตัวเอง ใช้ผัสสะทั้ง 5 เชื่อมโยงกับธรรมชาติรอบตัวอย่างละเอียด มองให้ลึกกว่าที่เคยแค่เห็น ลองฟังแบบตั้งใจ อยู่กับความเงียบบ้างว่าได้ยินเสียงอะไรบ้าง  หรือการได้กลิ่น สูดดมให้ได้สัมผัสนั้นจริงๆ เข้าถึงกลิ่นที่แท้จริง แม้กระทั่งการรับรส มาลองเคี้ยวอาหารอย่างละเอียด ลิ้มรสของมันอย่างละเมียดละไม ลองหลับตาแล้วลอง สัมผัสใบไม้ หรือสิ่งของรอบตัวแบบเข้าถึงมันจริงๆ สิ่งเหล่านี้มันฮีลใจได้ ถ้าเราใส่ใจ เราจะสังเกตพบอะไรหลายอย่าง มันจะตกผลึกในใจเรา และจะสามารถจัดการสิ่งที่วุ่นวายภายในใจตัวเองได้ สำหรับกิจกรรมครั้งแรกนี้ที่มาเป็นวิทยากรให้น้องๆ ที่สาขาวิชาเทคโนโลยีสื่อสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต เราใช้การถ่ายรูปเป็นตัวเชื่อมโยงในการชวนนักศึกษาให้เชื่อมโยงเข้ากับธรรมชาติ ซึ่งการถ่ายภาพธรรมชาติแต่ละครั้ง ต้องใช้การสังเกต เฝ้ารอ ใส่ใจในรายละเอียด ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันจะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ทำให้เราสามารถเชื่อมโยงตัวเองกับธรรมชาติได้”

ทางด้าน ผศ.พูนลาภ ตั้งอาสนะวิทย์ หัวหน้าสาขาวิชาเทคโนโลยีสื่อสังคม วิทยาลัยนวัตกรรมดิจิทัลเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า “ช่วงโควิดที่ผ่านมา นักศึกษาของเราต้องเรียนออนไลน์มาโดยตลอด กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมแรกที่เราจัดขึ้นเพื่อให้อาจารย์และนักศึกษาแต่ละชั้นปีได้มีโอกาสมาพบปะพูดคุยกันแบบออนไซต์ โดยหลักแล้วสาขาของเราสอนให้นักศึกษานำความรู้ไปผลิตสื่อออนไลน์ แต่เราก็ให้ความสำคัญในมิติของการดูแลจิตใจด้วยไม่แพ้กัน เราอยากนำไอทีมาเชื่อมโยงกับการดูแลใจ กิจกรรมวันนี้จะเป็นประโยชน์ให้เขามองเห็นว่าเขาสามารถเชื่อมโยงตัวเองกับธรรมชาติผ่าน

เครื่องมือไอทีที่ถนัด มองเห็นช่องทางในการดูแลใจตัวเองผ่านการถ่ายภาพธรรมชาติ วันนี้เป็นกิจกรรมเริ่มต้นเล็ก ๆ ในการทำให้เขาเริ่มต้นมองเห็นเรื่องนี้ เราก็หวังว่าจะมีความร่วมมือกับ Park ใจในการทำกิจกรรมดูแลใจนักศึกษาในลักษณะที่เต็มรูปแบบกว่านี้ต่อไปในอนาคต”

และในส่วนของนักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมได้เล่าว่า “ดีใจมากค่ะที่วันนี้ได้มีโอกาสได้ฟังพี่ต้นมาถ่ายทอดเรื่องการถ่ายภาพ เป็นประโยชน์กับตัวหนูมากที่จะได้นำเทคนิคการถ่ายภาพไปปรับใช้ในการเรียนได้ และทำให้เราได้แนวคิดใหม่ว่าการถ่ายภาพที่จะได้ภาพที่เล่าเรื่องได้ในตัวมันเองเราต้องเข้าถึงธรรมชาติ เข้าถึงจิตวิญญาณ ต้องใช้การสังเกต และก็ได้ตระหนักถึงการใช้ชีวิตประจำวันด้วยค่ะ ว่าเราควรมีช่วงเวลาที่ได้คอนเนคกับธรรมชาติบ้างนะ มีเวลามองต้นไม้ใบหญ้า อยู่กับตัวเองบ้างเพื่อช่วยข้างในใจเราให้ได้ผ่อนคลายค่ะ” เขมรินทร์ กล้าหาญ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 กล่าว 

ขณะที่ ศิริปรียา ขวัญครอง ก็เล่าให้ฟังว่า “ส่วนตัวหนูเป็นคนที่ชอบธรรมชาติอยู่แล้ว แต่เราก็เพียงแค่เออๆ ชอบนะ แต่ไม่ได้ลงลึกหรือใส่ใจมากขนาดนั้น แต่พอวันนี้ได้ฟังพี่เค้าพูดก็เหมือนเราได้ฉุกคิดขึ้นมาบางอย่างค่ะ เหมือนได้ย้ำเตือนเราว่าบางทีเราก็เผลอมองข้ามไป เราไม่ได้ใส่ใจเลย หรือเราอาจจะทำร้ายมันด้วยซ้ำ เหมือนมันอยู่ใกล้ๆ ตัวเราเราเลยมองข้ามมันไป แต่พอได้ฟังวันนี้มันทำให้เราได้คิดจริงๆ ค่ะ  และนอกจากนั้นคือที่ดีใจมากๆ วันนี้คือได้ความรู้เรื่องเทคนิคการถ่ายภาพ และได้มุมมองการถ่ายภาพที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยค่ะ และที่ทัชใจหนูมากเลยพี่ต้นเค้าบอกว่าการที่เราจะเก่งได้เราต้องฝึกฝน และลงมือทำบ่อยๆ การเรียนรู้ และการฝึกฝนไม่มีวันสิ้นสุดค่ะ”

สำหรับมหาวิทยาลัยใดมีความประสงค์ที่จะเข้าร่วมโครงการ “park ใจ go campus” สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือแจ้งความประสงค์เพื่อเข้าร่วมโครงการได้ที่  เฟซบุ๊กกลุ่ม Park ใจ