18 เมษายน 2568

ที่ปรึกษารัฐมนตรีย้ำส่งเสริมเกษตรกรทันสมัยสามารถแข่งขันได้ในตลาดการค้ายุคปัจจุบัน

image

        

         

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมพิพัฒน์มงคล องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)สมุทรสงคราม นายเจษฎา ญาณประภาศิริ นายก อบจ.สมุทรสงครามเป็นประธานเปิดโครงการขับเคลื่อนแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรม พ.ศ. 2568-2573 ในระดับจังหวัด ซึ่งนายสมฤทธิ์ วงษ์สวัสดิ์ ประธานสภาเกษตรกร จ.สมุทรสงคราม สมาชิกสภาและเจ้าหน้าที่สำนักงานสภาเกษตรกร จ.สมุทรสงครามร่วมกันจัดขึ้นตามพระราชบัญญัติสภาเกษตรกรแห่งชาติ พ.ศ.2553 ที่กําหนดให้สภาเกษตรกรจังหวัดฯ เสนอแผนพัฒนาเกษตรกรรมระดับจังหวัดต่อสภาเกษตรกรแห่งชาติ เพื่อบูรณาการเป็นแผนแม่บทเสนอต่อคณะรัฐมนตรี อีกทั้งยังเป็นแผนที่ได้รับการรับฟังความคิดเห็นและกลั่นกรองจากข้อมูลเชิงลึกความต้องการของเกษตรกร และแนวทางการพัฒนาที่เหมาะสมกับบริบทพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม จึงได้จัดโครงการดังกล่าวขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้แผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรม พ.ศ. 2568-2573 และเสริมสร้างความร่วมมือประสานงานกับภาครัฐและเอกชนตามแนวทางขับเคลื่อน โดยมีสมาชิกสภาเกษตรกร ตลอดจนเกษตรกรใน จ.สมุทรสงครามจากทั้ง 3 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.อัมพวา และอ.บางคนที มาร่วมงานกว่า 200 คน 

            มีการบรรยายพิเศษของ นายรัตนะ สวามีชัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในหัวข้อ นโยบายการขับเคลื่อนภาคเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเน้นย้ำเรื่องสร้างการรับรู้แผนการพัฒนาเกษตรกรรมให้มีประสิทธิภาพ ทันสมัย และสามารถให้เกษตรกรแข่งขันในตลาดการค้าในยุคปัจจุบันได้ และสำหรับแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรม พ.ศ. 2568 -2573 ได้ถูกจัดทำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี จึงมุ่งหวังให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาภาคเกษตรของจังหวัดให้เติบโตและขอให้ร่วมมือกันผลักดันขับเคลื่อนแผนแม่บทนี้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมนำไปสู่การพัฒนาที่ตอบโจทย์เกษตรกร และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้มีความยั่งยืนต่อไป

            จากนั้นนายสมฤทธิ์ วงษ์สวัสดิ์ ประธานสภาเกษตรกร จ.สมุทรสงครามได้กล่าวถึงความเป็นมาของแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรมฉบับที่ 2 พ.ศ. 2568-2573 ว่าประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์คือ 1.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมภาคการเกษตร 2.พัฒนาและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น 3.เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตที่สอดคล้องกับมาตรฐานสินค้าเกษตร และ 4.บริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมภาคการเกษตรอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยมีใจความสำคัญที่สภาเกษตรกร จ.สมุทรสงครามจะมุ่งมั่นเพื่อปฏิบัติตามภายใต้ 1 หลักคือหลักเศรษฐกิจพอเพียง 2 ฐาน ได้แก่ ฐานข้อมูลเชิงกลยุทธ์และเทคโนโลยีสารสนเทศ และฐานกลไกการกระจายอำนาจภาคการเกษตร 3 ทิศได้แก่ ทิศสู่ความเข้มแข็งของเกษตรกร ทิศนำสู่เกษตรกรรมสีเขียว และทิศการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรสู่ตลาดโลก  11 ทางคือทางสู่การพัฒนาภาคเกษตรกรรม และ 32 วิถีสู่การปฏิบัติเพื่อขับเคลื่อนแผนพัฒนาภาคเกษตรกรรมของประเทศ นอกจากนี้ผู้ร่วมงานยังได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงหอยแครงสู่ชุมชน โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์  ดร.สุขกฤช นิมิตรกุล อาจารย์ประจำภาควิชาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อีกด้วย

            สำหรับสภาเกษตรกร จ.สมุทรสงครามประกอบด้วยสมาชิกที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้แทนเกษตรกรจำนวน 16 คน และสมาชิกผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งสมาชิกสภาเกษตรกรได้คัดเลือกผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเกษตรกรรมจากด้านพืช ด้านสัตว์ และด้านประมง อย่างน้อยด้านละ 1 คน ส่วนบทบาทหน้าที่ของสภาเกษตรกรจังหวัดที่สำคัญ เช่น จะต้องร่วมกันพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่เกษตรกรและองค์กรเกษตรกรภายในจังหวัด และเสนอนโยบายแนวทางในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรกรรม รวมทั้งราคาผลผลิตทางเกษตรกรรมที่ไม่เป็นธรรมต่อสภาเกษตรกรแห่งชาติ เป็นต้น

ภาพข่าว

ตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ทล.“ห่วงใยทุกชีวิต เป็นมิตรทุกเส้นทาง

ตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ทล.“ห่วงใยทุกชีวิต เป็นมิตรทุกเส้นทาง

สงกรานต์ วันหยุค ผู้ปฏิบัติหน้าที่ ตึกถล่ม สตง ทำงานไม่หยุด

สงกรานต์ วันหยุค ผู้ปฏิบัติหน้าที่ ตึกถล่ม สตง ทำงานไม่หยุด

ตรวจเข้มทั้งจังหวัด! ผู้ว่าฯ-ผู้การฯ นนทบุรี ลงพื้นที่จุดตรวจ 7 วันอันตราย

ตรวจเข้มทั้งจังหวัด! ผู้ว่าฯ-ผู้การฯ นนทบุรี ลงพื้นที่จุดตรวจ 7 วันอันตราย