14 ตุลาคม 2568

ศาลอุทธรณ์ แก้โทษจำเลย คดี นรต.โดดร่มไม่กาง คุก 4ปี เป็น 3 ปี ไม่รอลงอาญา พ่อจ่อยื่นฎีกา...

image

            ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 อ่านคำพิพากษาศาลอุทรณ์คดี พลร่มนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน รุ่นที่ 69 แล้วเกิดอุบัติเหตุร่มไม่กาง นรต. เสียชีวิต 2 คน เพิ่มโทษคดี 157 บางรายเพิ่มจำคุก บางรายลดโทษเหลือ 3 ปี 4 เดือน บิดาติดใจเหตุบรรเทาโทษ ทนายอนันต์ชัยเผยโจทย์ขอยื่นฎีกา... 

            จากเหตุการณ์การฝึกหลักสูตรพลร่มนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน รุ่นที่ 69 ที่ค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี แล้วเกิดอุบัติเหตุร่มไม่กาง ส่งผลให้ นรต.ชยากร พุทธชัยยงค์ หรือน้องโยโย่ และ นรต.ณัฐวุฒิ ติรสุวรรณสุข หรือน้องฟิว เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 มี.ค.57

            ต่อมาเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จ.สมุทรสงคราม ได้ยกคำร้องคดีความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 7 โจทก์ และนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ นายสาธร พุทธชัยยงค์ บิดาของนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) ชยากร พุทธชัยยงค์ หรือน้องโยโย่ เป็นโจทก์ร่วม ยื่นศาลอุทรณ์นั้น

            เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม  ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จ.สมุทรสงคราม ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทรณ์คดี หมายเลขดำที่ อท 17/2563 ระหว่างพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 7 โจทก์ และ นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ นายสาธร พุทธชัยยงค์ บิดาของนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) ชยากร พุทธชัยยงค์ หรือ น้องโยโย่ เป็นโจทก์ร่วม กับ ร้อยเอกกณพ อยู่สุข จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 9 ราย ประกอบด้วย นายสมชาย จำเลยที่ 2 จ่าเอกกีรดิต จำเลยที่ 3 นายรัชเดช  จำเลยที่ 4 นายวัชรพงษ์ จำเลยที่ 5 พ.ต.อ.อโนทัย จำเลยที่ 6 พ.ต.อ.ประพงษ์ จำเลยที่ 7 ร.ต.อ.พิพัฒน์ จำเลยที่ 8 นายสุพร  จำเลยที่ 9 ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย รับอันตรายสาหัส ป.อาญา มาตรา 83, 86, 157, 291, 300 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 3, 11...  

ต่อมาเวลา 08.45 น. นายสาธร และ นายอนันต์ชัย ได้เดินทางมาที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จ.สมุทรสงคราม ด้วยรถเบนซ์สีขาว ทะเบียน 8กด5441 ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนจะเดินเข้าไปในศาลเพื่อฟังคำพิพากษา

            นายอนันต์ชัย กล่าวว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 31 มี.ค.2557 สืบเนื่องจาก สลิงที่นำมาติดตั้งบนเครื่องบินไม่ใช่ของแท้ที่ใช้กับเครื่องบินลำที่เกิดเหตุ ก่อนกระโดดร่มกองบินตำรวจ ได้ตรวจสอบด้วยการใช้ผ้ารูดไปที่สลิง พบว่าผ้าขาด แล้วพบว่าสลิงเกิดความเสียหายจะต้องเปลี่ยน ขณะที่กองบินตำรวจมีสลิงของแท้จากประเทศสเปน จำนวน 2 เส้น เส้นละ 98,000 บาท และเก็บไว้ในสต๊อกของกองบินตำรวจ ซึ่งสามารถนำติดตั้งบนเครื่องบิน

นายอนันต์ชัย กล่าวว่า แต่กองบินตำรวจไม่ได้เอาของแท้มาเปลี่ยนบนเครื่องบินลำที่เกิดเหตุ แต่บริษัทอุตสาหกรรมการบินกลับให้เจ้าหน้าที่ไปหาสลิงตามท้องตลาดมาใส่ เป็นของปลอมเส้นละ 4,800 บาท มาติดตั้งแทน จึงทำให้ไม่มีมาตรฐาน รวมทั้งการซ่อมไม่มีมาตรฐาน โดยดัดแปลงนำสลิงดังกล่าวมาตัดและเจียให้ปลายแหลมไปใส่กับหัวยึดเดิม แล้วนำไปติดตั้งบนเครื่องบิน

            นายอนันต์ชัย กล่าวว่า เมื่อนักเรียนนายร้อยตำรวจกระโดดลงมาปกติ สลิงจะดึงฝาร่มเปิด แต่เมื่อสลิงเป็นของปลอมไม่ได้มาตรฐาน ทำให้สลิงหลุดมาทั้งพวง เป็นสาเหตุให้ร่วมไม่กาง นักเรียนนายร้อยตำรวจตกลงมาเสียชีวิต จากกรณีดังกล่าวเป็นสาเหตุทำให้เกิดเรื่องร้ายขึ้นแน่นอน คดีนี้ส่งมาที่ศาลทุจริตและประพฤติมิชอบ จึงส่อให้เห็นแล้วว่า “ทุจริตและประพฤติมิชอบ” จะด้วยประมาทเลินเล่อ หรือด้อยคุณภาพในการซ่อม หรือมีการทุจริต ต้องรอฟังคำตัดสิน แต่ปัญหาเกิดจากสลิงนี้แน่นอน... 

            ต่อมาเมื่อเวลา 12.06 น. นายสาธร และนายอนันต์ชัย ทนายความ ได้เดินออกจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ก่อนจะมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

            นายอนันต์ชัย กล่าวว่า หลังจากศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกคนละ 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา หลังจากนั้นมีการยื่นอุทธรณ์ ต่อมา นายวัชรพงษ์  จำเลยที่ 5 ซึ่งเป็นผู้จัดซื้อลวดสลิงกับเอกชน และ พ.ต.อ.ประพงษ์ จำเลยที่ 7 ได้เสียชีวิต ศาลจึงจำหน่ายคดี เหลือพิจารณาจำเลยที่ 1, 2, 3, 4, 6, 8 และที่ 9 ซึ่งวันนี้ ศาลฯได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งถือว่านานมาก โดยศาลอุทธรณ์ได้ พิจารณาว่าการกระทำผิดของจำเลยที่ 2, 3, 4, 6, 8 และที่ 9 เป็นการกระทำต่อความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามกฎหมายที่มีโทษหนักสุด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 โดยจำเลยที่ 2, 3, 4 ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291(เดิม) ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด จำคุกคนละ 5 ปี จำเลยที่ 8 ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157(เดิม) ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด จำคุก 5 ปี จำเลยที่ 9 ให้ลงโทษตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การ หรือ หน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด จำคุก 5 ปี การไต่สวนของจำเลยที่ 2, 3, 4, 8 และ 9 เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละ 1 ใน 3 คงจำคุก คนละ 3 ปี 4 เดือน ส่วนจำเลยที่ 6 ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157(เดิม) ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด จำคุก 6 ปี และ จำเลยที่ 1 ยกฟ้อง เนื่องจากไม่มีส่วนร่วมในการประมาท...  

            นายสาธร กล่าวภายหลังศาลตัดสินว่า ตนขอแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเกี่ยวกับคดี ซึ่งตนเคารพในคำพิพากษาของศาล อย่างจริงใจ ในศาลชั้นต้นจำคุกคนละ 4 ปี เท่ากัน แต่ศาลอุทธรณ์ มีการเพิ่มโทษเป็น 5 ปี แต่มีเหตุบรรเทาโทษ เหลือ 3 ปี 4 เดือน ซึ่งถ้าเทียบกับศาลชั้นต้น ถือว่าโทษเบาลง ซึ่งด้วยความเคารพในคำพิพากษาของศาลแต่ตนเห็นต่าง คือ ในการสืบพยาน 10 นัด 10 วัน 50 วัน มีนายอนันต์ชัย เพียงผู้เดียวตนเข้าร่วมฟังการสืบพยานทุกนัดทุกคน

ตนยังคาใจว่า ทนายอนันต์ชัยได้สอบถามจำเลยว่า ใครเป็นผู้ตัดสลิงเพราะยาวไป และเจียสลิง เพราะใหญ่ไป รวมทั้ง ถามว่ามีสลิงของแท้อยู่ทำไมไม่มีใครนำมาติด แต่ทั้ง 2 คำถามจำเลยทุกปาก เงียบไม่ตอบคำถามทั้ง 2 คำถาม ใช้วิธีดื้อเงียบ จนศาลท่านบอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวศาลมีดุลพินิจเอง ตนจึงเห็นว่าโทษเบาลง ไม่สมกับที่จำเลย ไม่ตอบคำถามทั้ง 2 ข้อ จึงไม่ควรมีเหตุบรรเทาโทษ ซึ่งจากนี้ไปจะยื่นฎีกาให้มีโทษสูงสุด 10 ปี

            ส่วนที่ 2 ต้องขอบคุณทนายอนันต์ชัย ที่ทำคดีนี้มาคนเดียวทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา 10 นัด 10 วัน พยาน 50 ปาก ทนายอนันต์ชัย เป็นทนายฝ่ายโจทย์คนเดียว ที่สืบพยานทั้งหมด ตนจึงเรียนด้วยความตื้นตันใจว่า หลังจากคดีแพ่งจบแล้วศาลตัดสินให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและการบินไทยร่วมกันเยียวยาเป็นเงิน 7,400,000 บาท เศษ ทนายอนันต์ชัย ไม่ขอรับค่าวิชาชีพใดๆแม้แต่บาทเดียว บอกเพียงว่าขอทำคดีนี้เหมือนลูกชายตน เป็นลูกของทนายอนันต์ชัยเอง จึงขอบคุณทนายอนันต์ชัยอย่างเป็นทางการ

           จากนั้น นายสาธร ได้มอบพวงมาลัยดอกมะลิและกระเช้าผลไม้ ก่อนจะกราบที่อกทนายอนันต์ชัยด้วยน้ำตาคลอเบ้าตา ก่อนที่ทั้ง 2 คนจะเดินทางกลับ 

ภาพข่าว

เอ็ม บี เค เชิญชมการแสดงดนตรี บทเพลงพระราชนิพนธ์ ในงาน “บทเพลงของพ่อ”

เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ขอเชิญร่วมชมการแสดงดนตรี บทเพลงพระราชนิพนธ์ ร่วมน้อมรำลึก เนื่องในวันนวมินทรมหาราช 13 ต.ค. 68 โดยวงซิมโฟนีออเคสตรา Bangkok Metropolitan Orchestra พร้อมศิลปินรับเชิญ

ผบช.ภ.1 ตรวจเยี่ยม สภ.รัตนาธิเบศร์ มอบนโยบายและให้ขวัญกำลังใจตำรวจในพื้นที่

ผบช.ภ.1 ตรวจเยี่ยม สภ.รัตนาธิเบศร์ มอบนโยบายและให้ขวัญกำลังใจตำรวจในพื้นที่

เพื่อนใจวันเก๋าสร้างเครือข่ายดูแลสุขภาพใจผู้สูงอายุ

สโมสรไลออนส์สมุทรสงคราม ใส่ใจผู้สูงอายุ จัดโครงการ เพื่อนใจวัยเก๋า แกนนำสุขภาพใจดี ร่ายกาย(ก็)มีสุขสร้างเครือข่ายดูแลสุขภาพใจผู้สูงอายุ